หมวดหมู่: ตลาดหลักทรัพย์
53
ภาวะตลาดหุ้นไทย: ปิดบวก 2.70 จุด แรงซื้อ LTF-RMF ช่วยพยุงแม้รับ Sentiment เชิงลบแผนปฏิรูปภาษีสหรัฐฯอาจล่าช้า
     SET ปิดช่วงบ่ายที่ 1,717.69 จุด เพิ่มขึ้น 2.70 จุด ซื้อขาย 52,053.95 ล้านบาท นักวิเคราะห์ฯ
 เผยตลาดหุ้นไทยเคลื่อนไหว Sideway ทั้งบวก-ลบ แต่ทิศทางดูดีกว่าตลาดหุ้นต่างประเทศส่วนใหญ่ที่รับ Sentiment เชิงลบจากความกังวลร่างกฎหมายปฏิรูปภาษีของสหรัฐฯอาจล่าช้า อย่างไรก็ตาม เม็ดเงินจากกองทุน LTF-RMF ยังช่วยประคองตลาด ส่วนสัปดาห์หน้าต้องติดตามความคืบหน้าปัจจัยในสหรัฐ ขณะที่แรงซื้อกองทุนในประเทศอาจเริ่มชะลอในครึ่งหลังของ ธ.ค.ทำให้คาดตลาดจะยังเคลื่อนไหว Sideway ให้แนวรับ 1,690 จุด และแนวต้าน 1,730 จุด
ตลาดหลักทรัพย์ฯ ปิดวันนี้ที่ระดับ 1,717.69 จุด เพิ่มขึ้น 2.70 จุด (+0.16%) มูลค่าการซื้อขาย 52,053.95 ล้านบาท
การซื้อขายหุ้นวันนี้ ดัชนีหุ้นไทยเคลื่อนไหวในแดนบวกและแดนลบสลับกัน โดยดัชนีฯแตะจุดสูงสุดที่ 1,717.69 จุด และแตะจุดต่ำสุดที่ระดับ 1,709.16 จุด
ส่วนหลักทรัพย์เปลี่ยนแปลงวันนี้ เพิ่มขึ้น 590 หลักทรัพย์ ลดลง 605 หลักทรัพย์ และไม่เปลี่ยนแปลง 468 หลักทรัพย์
นายณัฐชาต เมฆมาสิน ผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการฝ่ายวิเคราะห์หลักทรัพย์ บล.ทรีนีตี้ กล่าวว่า ตลาดหุ้นไทยเคลื่อนไหว Sideway แดนบวกและลบสลับกัน แต่ทิศทางดูดีกว่าตลาดหุ้นต่างประเทศที่ส่วนใหญ่เคลื่อนไหวในแดนลบ หลังมีความกังวลร่างกฎหมายปฏิรูปภาษีสหรัฐฯที่อาจมีความล่าช้ากว่าที่ตลาดคาดการณ์ว่าประธานาธิบดี โดนัลด์ ทรัมป์ จะสามารถลงนามรับรองเป็นกฎหมายก่อนคริสต์มาส ทำให้ค่าเงินดอลลาร์อ่อนค่าลง ซึ่งเป็น Sentiment เชิงลบต่อการลงทุนในหุ้นและสินทรัพย์เสี่ยงอื่น
สำหรับตลาดหุ้นไทยยังได้แรงหนุนจากการเข้ามาซื้อของกองทุนในประเทศ โดยเฉพาะกองทุนรวมหุ้นระยะยาว (LTF) และกองทุนรวมเพื่อการเลี้ยงชีพ (RMF) ช่วยประคอง Downside ไม่ให้ดัชนีปรับลงมาก ซึ่งนับตั้งแต่ต้นเดือน ธ.ค.สถาบันในประเทศเข้ามาซื้อสุทธิค่อนข้างมากถึงราว 1.5 หมื่นล้านบาท ทำให้ดัชนีจะปรับลงแรงได้ค่อนข้างยาก อย่างไรก็ตาม คาดว่าแรงซื้อของกองทุนในประเทศอาจชะลอตัวลงในช่วงครึ่งหลังของเดือนนี้ เนื่องจากอาจมีการกันเงินบางส่วนเพื่อรองรับการไถ่ถอน LTF ที่จะครบกำหนดช่วงต้นปี 61 ทำให้คาดว่ากองทุนในประเทศอาจมีเม็ดเงินเพื่อซื้อสุทธิในตลาดหุ้นได้อีกราว 5 พันล้านบาท
ส่วนแนวโน้มการซื้อขายในสัปดาห์หน้า คาดว่าดัชนีจะยังแกว่งตัว Sideway โดยต้องติดตามความคืบหน้าร่างกฎหมายปฏิรูปภาษีของสหรัฐฯ และการผ่านร่างกฎหมายงบประมาณชั่วคราวของสหรัฐก่อนหน้านี้ ช่วยให้รัฐบาลมีงบประมาณใช้จ่ายไปจนถึงวันที่ 22 ธ.ค.หากยังไม่มีแผนอื่นมารองรับก็อาจทำให้หน่วยงานบางแห่งของสหรัฐฯมีความเสี่ยงต่อการปิดตัวลง รวมถึงการประชุมธนาคารกลางญี่ปุ่น (BOJ) วันที่ 21 ธ.ค.นี้ ส่วนการประชุมคณะกรรมการนโยบายการเงิน (กนง.) ในวันที่ 20 ธ.ค. คาดว่าจะไม่ส่งผลต่อภาพรวมตลาดมากนัก โดยมองแนวรับสัปดาห์หน้าบริเวณ 1,690 จุด และแนวต้านที่ 1,730 จุด
ส่วนหลักทรัพย์ที่มีมูลค่าการซื้อขายสูงสุด 5 หลักทรัพย์ ได้แก่
PTT มูลค่าการซื้อขาย 3,023.70 ล้านบาท ปิดที่ 432.00 บาท เพิ่มขึ้น 2.00 บาท
BANPU มูลค่าการซื้อขาย 1,862.82 ล้านบาท ปิดที่ 17.50 บาท เพิ่มขึ้น 0.30 บาท
AOT มูลค่าการซื้อขาย 1,721.59 ล้านบาท ปิดที่ 64.00 บาท เพิ่มขึ้น 0.50 บาท
CPALL มูลค่าการซื้อขาย 1,603.92 ล้านบาท ปิดที่ 76.50 บาท ราคาไม่เปลี่ยนแปลง
IVL มูลค่าการซื้อขาย 1,520.98 ล้านบาท ปิดที่ 53.00 บาท เพิ่มขึ้น 0.25 บาท
--อินโฟเควสท์
OO3649

ooKbee1

corehoon NEW2

 

 

ข่าวล่าสุด!!