บลจ.อีสท์สปริง เปิดกองตราสารหนี้ต่างประเทศ 1 ปี ‘ES-FF1Y1’ ห้ามขายผู้ลงทุนรายย่อย เน้นลงทุนบัตรเงินฝาก/ตราสารหนี้แบงก์จีน ชูยิลด์ 1.90% ต่อปี IPO ตั้งแต่วันนี้-28 มี.ค. 68 นี้
บริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุน อีสท์สปริง (ประเทศไทย) จำกัด หรือ บลจ.อีสท์สปริง เปิดเสนอขายกองทุนใหม่ กองทุนเปิดอีสท์สปริง ตราสารหนี้ต่างประเทศ 1Y1 ห้ามขายผู้ลงทุนรายย่อย (ES-FF1Y1) อายุ 1 ปี มูลค่าโครงการ 2,000 ล้านบาท มีนโยบายที่จะนำเงินลงทุนไปลงทุนในตราสารหนี้ภาครัฐ และหรือรัฐวิสาหกิจ และหรือสถาบันการเงิน และหรือภาคเอกชน รวมถึงตราสารหนี้อื่นใดที่เสนอขายในต่างประเทศและ/หรือเงินฝากต่างประเทศ รวมกันไม่น้อยกว่าร้อยละ 80 ของมูลค่าทรัพย์สินสุทธิของกองทุน สำหรับเงินลงทุนส่วนที่เหลือจะลงทุนในเงินฝากธนาคาร และ/หรือหลักทรัพย์หรือทรัพย์สินอื่นหรือการหาดอกผลโดยวิธีอื่นตามที่สำนักงานคณะกรรมการ ก.ล.ต.กำหนดหรือเห็นชอบให้กองทุนลงทุนได้ ทั้งนี้กองทุนจะเข้าทำสัญญาซื้อขายล่วงหน้า (Derivatives) เพื่อป้องกันความเสี่ยง (Hedging) ด้านอัตราแลกเปลี่ยนทั้งจำนวน (Fully Hedge) และอาจเข้าทำสัญญาซื้อขายล่วงหน้า (Derivatives) สำหรับตราสารที่มีอายุยาวกว่าอายุโครงการเพื่อป้องกันความเสี่ยงจากอัตราดอกเบี้ยและสภาพคล่อง โดยเปิดเสนอขายครั้งแรกครั้งเดียวตั้งแต่วันนี้-28 มีนาคม 2568 ด้วยเงินลงทุนขั้นต่ำ 500,000 บาท
สำหรับกองทุนเปิดอีสท์สปริง ตราสารหนี้ต่างประเทศ 1Y1 ห้ามขายผู้ลงทุนรายย่อย (ES-FF1Y1) จะลงทุนเพียงครั้งเดียวและถือครองทรัพย์สินที่ลงทุนจนครบอายุโครงการ (Buy and Hold) โดยตราสารที่คาดว่าจะลงทุนประกอบด้วย 1.บัตรเงินฝาก/ตราสารหนี้ Agricultural Bank of China (ABC) อันดับความน่าเชื่อถือ A(Fitch) สัดส่วน 17% 2. บัตรเงินฝาก/ตราสารหนี้ China Construction Bank (CCB) อันดับความน่าเชื่อถือ A(Fitch) สัดส่วน 17% 3.บัตรเงินฝาก/ตราสาร Bank of China (BOC) อันดับความน่าเชื่อถือ A(Fitch) สัดส่วน 17% 4.บัตรเงินฝาก/ตราสารหนี้ Industrial and Commercial Bank of China (ICBC) อันดับความน่าเชื่อถือ A(Fitch) สัดส่วน 16% 5. บัตรเงินฝาก/ตราสารหนี้ Bank of Communication(BOCOM) อันดับความน่าเชื่อถือ A(Fitch) สัดส่วน 16% 6.บัตรเงินฝาก/ตราสารหนี้ China Merchants Bank (CMB)อันดับความน่าเชื่อถือ A-(Fitch) สัดส่วน 16% และ 7.พันธบัตรธนาคารแห่งประเทศไทย สัดส่วน 1% โดยคาดหวังจะได้รับผลตอบแทนประมาณ 2.196% ต่อปี ณ วันครบอายุโครงการ ซึ่งเมื่อหักค่าใช้จ่ายประมาณ 0.296% ต่อปี ณ วันครบอายุโครงการ แล้ว ผู้ลงทุนจะได้รับประมาณการผลตอบแทนอยู่ที่ 1.90% ต่อปีของเงินลงทุนเริ่มแรก (แหล่งที่มาของข้อมูล อัตราผลตอบแทนที่เสนอขายโดยผู้ออกตราสาร ณ วันที่ 20 มีนาคม 2568)
ทั้งนี้ เมื่อครบกำหนดอายุกองทุน บลจ.อีสท์สปริง จะดำเนินการรับซื้อคืนหน่วยลงทุนแบบอัตโนมัติ และทำการสับเปลี่ยนหน่วยลงทุนของกองทุนทั้งจำนวนของผู้ถือหน่วยทุกราย ไปยังกองทุนเปิดอีสท์สปริง ธนรัฐ (ES-TM) หรือกองทุนรวมตลาดเงินอื่นที่บลจ.อีสท์สปริง เปิดให้บริการสับเปลี่ยนหน่วยลงทุน ในวันทำการก่อนวันสิ้นสุดอายุโครงการ
อย่างไรก็ตาม หากไม่สามารถลงทุนให้เป็นไปตามที่กำหนดไว้ เนื่องจากสภาวะตลาดมีการเปลี่ยนแปลงไป ผู้ลงทุนอาจไม่ได้รับผลตอบแทนตามอัตราที่กำหนดไว้ ทั้งนี้ ผู้ลงทุนจะไม่สามารถขายคืนหน่วยลงทุนได้ในช่วงระยะเวลา 1 ปีดังนั้น หากมีปัจจัยลบที่ส่งผลกระทบต่อการลงทุนดังกล่าว ผู้ลงทุนอาจสูญเสียเงินลงทุนจำนวนมาก กองทุนอาจไม่ได้รับเงินต้นและผลตอบแทนตามที่คาดหวังไว้ หากผู้ออกตราสารที่กองทุนลงทุนไม่สามารถชำระเงินต้นและดอกเบี้ยคืนได้ บริษัทจัดการขอสงวนสิทธิในการเปลี่ยนแปลงทรัพย์สินที่ลงทุนหรือสัดส่วนการลงทุนได้ เฉพาะเมื่อมีความจำเป็นและสมควรเพื่อประโยชน์ของผู้ลงทุนเป็นสำคัญ กองทุนนี้ลงทุนกระจุกตัวในส่วนของผู้ออกตราสาร หมวดอุตสาหกรรมธนาคาร และประเทศจีน จึงมีความเสี่ยงที่ผู้ลงทุนอาจสูญเสียเงินลงทุนจำนวนมากผู้ลงทุนไม่สามารถขายคืนหน่วยลงทุนนี้ในช่วงระยะเวลา 1 ปีได้ดังนั้นหากมีปัจจัยลบที่ส่งผลกระทบต่อการลงทุนดังกล่าว ผู้ลงทุนอาจสูญเสียเงินลงทุนจำนวนมาก โดยการเปลี่ยนแปลงนั้นต้องไม่ทำให้ความเสี่ยงของทรัพย์สินที่ลงทุนเปลี่ยนแปลงไปอย่างมีนัยสำคัญ และผู้ลงทุนควรทำความเข้าใจลักษณะสินค้า เงื่อนไขผลตอบแทนและความเสี่ยงก่อนการตัดสินใจลงทุน และกองทุนมีความเสี่ยงที่สำคัญ เช่น ความเสี่ยงจากการเปลี่ยนแปลงของอัตราดอกเบี้ย ความเสี่ยงจากการขาดสภาพคล่องของตราสาร และความเสี่ยงจากความผันผวนของราคาหลักทรัพย์ เป็นต้น
ผู้สนใจสามารถขอรับหนังสือชี้ชวนได้ที่ บลจ.อีสท์สปริง (ประเทศไทย) หรือผู้สนับสนุนการขาย และรับซื้อคืนหน่วยลงทุนที่ได้รับการแต่งตั้ง และดูรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ www.eastspring.co.th หรือโทร 1725 ในวันและเวลาทำการ หรือผ่านช่องทางการขายของ บลจ.อีสท์สปริง
3604