นภินทร ตรวจเส้นทางโลจิสติกส์ไทย-สปป.ลาว-จีน เปิดทางสะดวกรับฤดูผลไม้
นภินทร นำทีมพาณิชย์ ตรวจสอบเส้นทางโลจิสติกส์ ไทย-สปป.ลาว-จีน และหารือหน่วยงานรัฐ ผู้ประกอบธุรกิจโลจิสติกส์รายใหญ่ เปิดทางสะดวกผลไม้ไทย ทั้งผ่านเส้นทางทางบก ทางรถไฟ มั่นใจการส่งออกผลไม้ สินค้าเกษตร สินค้าอุปโภคบริโภคเข้าสู่ตลาดจีนฉลุย ก่อนไปสิบสองปันนา คุนหมิง หารือเปิดทางรูปแบบเดียวกัน
นายนภินทร ศรีสรรพางค์ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงพาณิชย์ เปิดเผยว่า ได้นำคณะกระทรวงพาณิชย์ บินเยือนนครหลวงเวียงจันทน์ สปป.ลาว มีเป้าหมายสำคัญในการขยายตลาดทุเรียนและผลไม้ไทยอื่นๆ ในจีน ผ่านโครงข่ายโลจิสติกส์ที่เชื่อมต่อจากไทยผ่านลาวสู่จีน โดยได้มีการหารือกับหน่วยงานภาครัฐและเอกชนที่เกี่ยวข้องกับการสร้างเส้นทางการค้าของลาว ได้แก่ กระทรวงโยธาธิการและขนส่ง และบริษัท Vientiane Logistics Park (VLP) โครงการท่าบกท่านาแล้ง เพื่อแลกเปลี่ยนข้อมูลที่เกี่ยวกับเส้นทางเชิงพาณิชย์ อันจะส่งเสริมการค้าระหว่างกันให้มีมูลค่าสูงขึ้น
ทั้งนี้ ปัจจุบันมีเส้นทางการขนส่งระหว่าง 3 ประเทศ (ไทย ลาว จีน) คือ เส้น R3A จากเชียงของ ห้วยทราย ผ่านบ่อเต็น เข้าโม่ฮานของจีน และเส้น R12 ซึ่งเป็นเส้นทางผลไม้หลักจากนครพนมเข้าสู่ลาวที่ด่านท่าแขก ผ่านเวียดนามที่ด่านลางเซิน หูหงิ เข้าจีนที่ด่านโหยวอี้กวน ที่มีการปรับปรุงเส้นทางให้มีความพร้อมมากขึ้น
สำหรับ เส้นทางที่มีศักยภาพในอนาคตที่จะมีการพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานด้านการขนส่งของ สปป.ลาว มีการก่อสร้างทางด่วนห้วยทราย-บ่อเต็น (เชื่อมเส้นทาง R3A ไทย-ลาว-จีน) และการก่อสร้างทางรถไฟ สปป.ลาว - เวียดนาม ซึ่งเป็นสิ่งที่ทางหน่วยงานภาครัฐของลาวได้เตรียมการการก่อสร้างอยู่ในขณะนี้ ซึ่งหากเส้นทางดังกล่าวแล้วเสร็จจะทำให้ผู้ประกอบการไทยมีทางเลือกในการขนส่งสินค้าไปยังจีนเพิ่มขึ้น
นายนภินทร กล่าวว่า ในส่วนของท่าบกท่านาแล้ง ที่มีการเปลี่ยนถ่ายสินค้าไทย-ลาว รวมถึงการจัดการการขนส่งสินค้าทางรถไฟ (Thanaleng Dry Port: TDP) และ Vientiane Logistics Park (VLP) เป็นส่วนหนึ่งของโครงการใหญ่ Lao Logistics Link : LLL
ซึ่งมีการเตรียมการโครงการท่าบกท่านาแล้ง Single window อันเป็นโครงการที่มีการเพิ่มจุดตรวจปล่อยสินค้าเกษตรที่ท่าบกท่านาแล้งแล้วส่งตรงไปยังคุณหมิง ประเทศจีน ซึ่งหากโครงการนี้แล้วเสร็จ จะเป็นโอกาสอันดีต่อการส่งออกผลไม้ไทยไปประเทศจีนทางตอนใต้และตะวันตก ที่จะช่วยให้สินค้าเกษตรไทยไปถึงคุณหมิงได้รวดเร็วขึ้น
นอกจากนี้ ได้มีการพบหารือกับผู้ประกอบการขนส่งสินค้าเกษตรไทยไปจีน ของบริษัท Speed International Transport Lao Co., Ltd. ซึ่งเป็นบริษัทร่วมทุนด้านโลจิสติกส์ระหว่างไทยและฮ่องกง เพื่อขยายโอกาสมารองรับการขนส่งทางรถไฟลาว-จีน มีระยะทางกว่า 1,000 กิโลเมตร จากคุณหมิงถึงนครหลวงเวียงจันทน์ โดยมีการหารือแลกเปลี่ยนปัญหา อุปสรรคการขนส่งผลไม้ทางรถไฟลาว-จีน ที่จะเกิดขึ้นการขนส่งสินค้าของไทยประเด็นต่าง ๆ อาทิ ปัญหาตู้คอนเทนเนอร์และรถหัวลากไม่เพียงพอ ความล่าช้าจากการตรวจปล่อยสินค้าที่หน้าด่านของจีน เป็นต้น
ขณะเดียวกัน ได้เยี่ยมชมสถานีเวียงจันทน์ใต้ ซึ่งเป็นจุดขนถ่ายสินค้ารถไฟลาว-จีน เพื่อดูรูปแบบการจัดการขนส่งสินค้าของบริษัทรถไฟลาว-จีน ซึ่งเป็นโครงการร่วมมือระหว่างรัฐบาลลาวและจีน บริหารงานโดยบริษัททางรถไฟลาว-จีน เส้นทางขนส่ง มีระยะทางประมาณ 1,000 กิโลเมตร (ระยะทางในจีน ประมาณ 600 กม. ระยะทางในลาว ประมาณ 414 กม.) และในลาวมีสถานีขนส่งโดยสาร 8 สถานี มี
ซึ่งเป็นช่องทางหนึ่งที่นำสินค้าไทย ทั้งสินค้าเกษตรและสินค้าอุปโภคบริโภคจากไทยมายัง สปป.ลาว และที่ผ่าน สปป.ลาวไปยังประเทศจีน ซึ่งเป็นเส้นทางศักยภาพและสามารถเพิ่มมูลค่าทางการค้าให้กับไทยได้เป็นอย่างดี
“จากการพบปะหารือทั้งหน่วยงานภาครัฐและเอกชนของทางฝั่ง สปป.ลาว เห็นว่าการพัฒนาโครงสร้างพื้นฐาน โดยเฉพาะโลจิสติกส์ผ่านโครงการต่างๆ โดยเฉพาะเส้นทางทางใต้และทางตะวันตกของจีน เป็นเส้นทางการค้าศักยภาพที่จะเป็นโอกาสของผู้ประกอบการไทยในการนำสินค้าของไทยโดยเฉพาะสินค้าเกษตรไปยังประเทศจีนมากขึ้น และจะทำให้เศรษฐกิจการค้าระหว่างประเทศของไทย-ลาว มีมูลค่าเพิ่มมากขึ้นอีกด้วย“ นายนภินทร กล่าว
อย่างไรก็ตาม ทีมกระทรวงพาณิชย์เอง จะเดินทางไปยังสิบสองปันนา และคุนหมิงในวันที่ 27 มี.ค. 2568 โดยจะนำข้อกังวลดังกล่าวไปพูดคุยกับทางจีนเพื่อให้ลดปัญหาและอุปสรรคของการนำเข้าสินค้าเกษตรไทยไปยังจีนในฤดูกาลผลไม้นี้