ข่าวด่วน ทันเหตุการณ์ เศรษฐกิจ การลงทุน หุ้น อสังหาริมทรัพย์ ไอที-เทคโนฯ รถยนต์ ท่องเที่ยว ต่างประเทศ รวดเร็วสดใหม่ทุกวัน

TU ไทยยูเนี่ยน ปลื้มยอดจองหุ้นกู้ยั่งยืนท่วมท้น สะท้อนความเชื่อมั่นนักลงทุน พร้อมโชว์ศักยภาพการเงินแข็งแกร่งปิดดีลเงินกู้ยั่งยืนครบแผง รวม 2.4 หมื่นล้านบาท ดันเป้าหมาย Blue Finance ปี 68 ทะลุเป้า

Category: บริษัทจดทะเบียน
Created on Tuesday, 30 September 2025 17:51
Hits: 308
TU ไทยยูเนี่ยน ปลื้มยอดจองหุ้นกู้ยั่งยืนท่วมท้น สะท้อนความเชื่อมั่นนักลงทุน พร้อมโชว์ศักยภาพการเงินแข็งแกร่งปิดดีลเงินกู้ยั่งยืนครบแผง รวม 2.4 หมื่นล้านบาท ดันเป้าหมาย Blue Finance ปี 68 ทะลุเป้า
0 Share

9504 TU 1

 

ไทยยูเนี่ยน ปลื้มยอดจองหุ้นกู้ยั่งยืนท่วมท้น สะท้อนความเชื่อมั่นนักลงทุน พร้อมโชว์ศักยภาพการเงินแข็งแกร่งปิดดีลเงินกู้ยั่งยืนครบแผง รวม 2.4 หมื่นล้านบาท ดันเป้าหมาย Blue Finance ปี 68 ทะลุเป้า

          บริษัท ไทยยูเนี่ยน กรุ๊ป จำกัด (มหาชน) หรือ TU ผู้นำอุตสาหกรรมอาหารทะเลระดับโลก ประกาศความสำเร็จในการออกหุ้นกู้เพื่ออนุรักษ์สิ่งแวดล้อม (ทรัพยากรทางทะเล) (Blue Bond) หุ้นกู้ส่งเสริมความยั่งยืน (Sustainability-Linked Bond หรือ SLB) และสินเชื่อที่เชื่อมโยงกับการดำเนินงานด้านความยั่งยืน (Sustainability-Linked Loan หรือ SLL) ไปพร้อมกัน ทั้งนี้ การออกหุ้นกู้ครั้งนี้ได้รับความสนใจล้นหลามจากนักลงทุน ด้วยยอดจองซื้อทะลุเป้าถึง 3.68 เท่า จากเป้าหมายการระดมทุนที่ 7,000 ล้านบาท จึงได้เพิ่มมูลค่าการออกหุ้นกู้เป็น 9,000 ล้านบาท การระดมทุนในครั้งนี้ทั้งหมดส่งผลให้ไทยยูเนี่ยนบรรลุเป้าหมาย Blue Finance หรือการบริหารจัดการการเงินเพื่อการทำงานด้านการอนุรักษ์ท้องทะเล โดยสามารถระดมทุนจากแหล่งเงินทุนที่เชื่อมโยงกับความยั่งยืนได้เกินเป้าหมายปี 2568 ซึ่งกำหนดไว้ที่ 75% ของเงินกู้ยืมระยะยาวเป็นระดับที่ 80% พร้อมเดินหน้าสู่เป้าหมาย 100% ภายในปี 2573

 

9504 TU Thiraphong

 

          นายธีรพงศ์ จันศิริ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท ไทยยูเนี่ยน กรุ๊ป จำกัด (มหาชน) กล่าวว่า “ความสำเร็จในครั้งนี้ถือเป็นการตอกย้ำวิสัยทัศน์ของเรา และสะท้อนจุดยืนที่ชัดเจนว่าถึงการเป็นผู้นำด้านความยั่งยืน ควบคู่ไปกับการรักษาความแข็งแกร่งทางการเงิน โดยนอกจากความสำเร็จด้านการระดมทุนแล้ว แรงสนับสนุนและความไว้วางใจจากนักลงทุนยังช่วยผลักดันให้ไทยยูเนี่ยนเดินหน้ากลยุทธ์ทางการเงินให้มีความสอดคล้องกับเป้าหมายด้านความยั่งยืน SeaChange® 2030 และพันธกิจของเราในการมุ่งสร้างสุขภาพที่ดี และท้องทะเลที่อุดมสมบูรณ์ ‘Healthy Living, Healthy Oceans’ เพื่อขับเคลื่อนอนาคตที่เท่าเทียมและยั่งยืนสำหรับอุตสาหกรรมอาหารทะเลทั่วโลก” 

          ทั้งนี้ ธุรกรรมล่าสุดมีมูลค่ารวม 19,000 ล้านบาท ในเดือนกันยายน 2568 แบ่งเป็นสินเชื่อ SLL จำนวน 10,000 ล้านบาท จากกลุ่มพันธมิตรธนาคารชั้นนำ และหุ้นกู้จำนวน 9,000 ล้านบาท โดยนับเป็นครั้งแรกในประเทศไทยที่มีการออกหุ้นกู้แบบผสมผสานระหว่าง หุ้นกู้ Blue Bond และหุ้นกู้ SLB ได้รับความต้องการที่ล้นหลามจากนักลงทุน ส่งผลให้ยอดจองหุ้นกู้สูงเกินกว่ายอดเสนอขาย ทำให้ไทยยูเนี่ยนสามารถกำหนดอัตราดอกเบี้ยในระดับต่ำสุดของช่วงเสนอขายในทุกช่วงอายุของหุ้นกู้ ซึ่งถือเป็นอัตราดอกเบี้ยในระดับต่ำสุดเป็นประวัติการณ์ของบริษัท สะท้อนความเชื่อมั่นของตลาดต่อสถานะทางการเงินและวิสัยทัศน์ด้านความยั่งยืนของบริษัท โดยมีการกำหนดอัตราดอกเบี้ยดังต่อไปนี้ 

          ● หุ้นกู้อายุ 4 ปี อัตราดอกเบี้ย 1.70%

          ● หุ้นกู้อายุ 7 ปี อัตราดอกเบี้ย 2.20%

          ● หุ้นกู้อายุ 10 ปี อัตราดอกเบี้ย 2.46%

 

9504 TU 2

 

          นอกจากนี้ สถานะทางการเงินของไทยยูเนี่ยนยังคงอยู่ในระดับที่แข็งแกร่ง โดยล่าสุดบริษัทได้รับการประกาศคงอันดับเครดิตองค์กรและหุ้นกู้ไม่ด้อยสิทธิ ไม่มีหลักประกัน จาก บริษัท ทริสเรทติ้ง จำกัด ไว้ที่ระดับ A+ ต่อเนื่อง

 

9504 TU Ludovic Garnier

 

          นายลูโดวิค การ์นิเยร์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร ด้านการเงิน บริษัท ไทยยูเนี่ยน กรุ๊ป จำกัด (มหาชน) กล่าวว่า “ไทยยูเนี่ยนสามารถระดมทุนด้วยต้นทุนการกู้ยืมที่ต่ำที่สุดในประวัติการณ์ของบริษัท ซึ่งเป็นผลลัพธ์ที่เกินความคาดหมายสำหรับเรา ความสำเร็จนี้สะท้อนความเชื่อมั่นของตลาดต่อความแข็งแกร่งด้านการเงินและทิศทางกลยุทธ์ของบริษัท การออกหุ้นกู้ที่มีโครงสร้างแบบผสมผสาน ซึ่งเป็นครั้งแรกในประเทศไทย และยอดจองหุ้นกู้ที่สูงกว่ายอดเสนอขายนั้น สะท้อนชัดเจนถึงความต้องการที่เพิ่มขึ้นต่อเนื่องสำหรับผลิตภัณฑ์ทางการเงินเพื่อความยั่งยืนที่มีความซับซ้อน เราขอขอบคุณนักลงทุนทุกท่านสำหรับการสนับสนุนเป็นอย่างดีตลอดมา” 

          สถาบันการเงินที่มีบทบาทในการจัดจำหน่ายหุ้นกู้และให้สินเชื่อในครั้งนี้ ได้แก่ ธนาคารกรุงศรีอยุธยา จำกัด (มหาชน) และธนาคารกสิกรไทย จำกัด (มหาชน) (สำหรับทั้งหุ้นกู้และสินเชื่อ) ธนาคารเกียรตินาคินภัทร จำกัด (มหาชน) ธนาคารกรุงไทย จำกัด (มหาชน) และธนาคารไทยพาณิชย์ จำกัด (มหาชน) (สำหรับหุ้นกู้) และธนาคารแห่งประเทศจีน (ฮ่องกง) จำกัด ธนาคารแห่งประเทศจีน (ไทย) จำกัด (มหาชน) ธนาคารเพื่อการส่งออกและนำเข้าแห่งประเทศไทย ธนาคาร มิซูโฮ จำกัด ธนาคารโอเวอร์ซี-ไชนีส แบงกิ้งคอร์ปอเรชั่น จำกัด สาขาสิงคโปร์ ธนาคารซูมิโตโม มิตซุย แบงกิ้ง คอร์ปอเรชั่น และธนาคารฮ่องกงและเซี่ยงไฮ้แบงกิ้งคอร์ปอเรชั่น จำกัด สาขากรุงเทพ และสาขาสิงคโปร์ (สำหรับสินเชื่อ)

          เมื่อเดือนพฤษภาคมที่ผ่านมา ไทยยูเนี่ยนยังได้รับเงินกู้เพื่อสิ่งแวดล้อมและความยั่งยืนทางทะเล (Blue Loan) มูลค่า 5,000 ล้านบาทจากธนาคารพัฒนาเอเชีย (ADB) และกลุ่มธนาคารพันธมิตร ซึ่งนับเป็นครั้งแรกของอุตสาหกรรมอาหารทะเลในประเทศไทย เพื่อสนับสนุนการเพาะเลี้ยงกุ้งอย่างยั่งยืนและการรับรองมาตรฐานสำหรับเกษตรกรกุ้ง ความสำเร็จทั้งหมดนี้ ส่งผลให้ไทยยูเนี่ยนสามารถระดมทุนเพื่อความยั่งยืนทางทะเล รวมทั้งสิ้น 24,000 ล้านบาทในปี 2568

          ตราสารทางการเงินเหล่านี้มีส่วนสำคัญในการช่วยขับเคลื่อนกลยุทธ์ SeaChange® 2030 ของบริษัท ผ่านการสนับสนุนเป้าหมายด้านความยั่งยืนที่สำคัญ เช่น การลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจก การเพาะเลี้ยงสัตว์น้ำอย่างมีความรับผิดชอบ และการลงทุนในโครงการที่เกี่ยวข้องกับความยั่งยืนของมหาสมุทร โดยหุ้นกู้ SLB จะได้รับิประโยชน์ทางการเงินเมื่อองค์กรสามารถบรรลุเป้าหมายที่กำหนด ขณะที่หุ้นกู้ Blue Bond นั้นมุ่งเน้นการจัดสรรเงินทุนโดยตรงไปยังโครงการอนุรักษ์ทรัพยากรทางทะเลและส่งเสริมเศรษฐกิจสีน้ำเงิน

 

 

9504

Click Donate Support Web 

MTI 720x100NHA Baner

PTG 720x100Banner GPF720x100 PXTOA 720x100EXIM One 720x90 C JMTL 720x100SME720x100 2024CKPower 720x100

QIC 720x100วิริยะ 720x100aia 720 x100BKI 720 x 100ธกส 720x100ใจฟู720x100pxAXA 720 x100