กรมสรรพากร ออกมาตรการภาษีเพื่อส่งเสริมการติดตั้ง Solar Rooftop ในบ้านอยู่อาศัยและมาตรการภาษี
กรมสรรพากร ออกมาตรการภาษีเพื่อส่งเสริมการติดตั้ง Solar Rooftop ในบ้านอยู่อาศัยและมาตรการภาษี เพื่อส่งเสริมเครื่องจักร อุปกรณ์ประสิทธิภาพสูง และวัสดุเพื่อการอนุรักษ์พลังงาน
คณะรัฐมนตรีมีมติเมื่อวันที่ ๒๕ พฤศจิกายน ๒๕๖๘ อนุมัติหลักการร่างพระราชกฤษฎีกาออกตามความในประมวลรัษฎากร ว่าด้วยการยกเว้นรัษฎากร (ฉบับที่ ..) พ.ศ. .... ตามมาตรการภาษี เพื่อส่งเสริมเครื่องจักร อุปกรณ์ประสิทธิภาพสูง และวัสดุเพื่อการอนุรักษ์พลังงานและมาตรการภาษี เพื่อส่งเสริมการติดตั้ง Solar Rooftop ในบ้านอยู่อาศัย
ดร.กุลยา ตันติเตมิท อธิบดีกรมสรรพากร เปิดเผยว่า“เพื่อให้เป็นไปตามนโยบายของรัฐบาลที่จะส่งเสริมการใช้พลังงานแสงอาทิตย์ในการผลิตไฟฟ้าภาคครัวเรือนและเพิ่มประสิทธิภาพการใช้พลังงานโดยเฉพาะในภาคอุตสาหกรรม อันจะช่วยประเทศไทยมีความยั่งยืนด้านพลังงานและสามารถบรรลุ เป้าหมายความเป็นกลางทางคาร์บอน (Carbon Neutrality) และเป้าหมายการปล่อยก๊าซเรือนกระจกสุทธิ เป็นศูนย์ (Net Zero Emissions) กระทรวงการคลังโดยกรมสรรพากรเห็นควรออกมาตรการภาษีเพื่อส่งเสริมเครื่องจักร อุปกรณ์ประสิทธิภาพสูง และวัสดุเพื่อการอนุรักษ์พลังงาน และมาตรการภาษีเพื่อส่งเสริมการติดตั้ง Solar Rooftop ในบ้านอยู่อาศัย โดยมีรายละเอียดของมาตรการดังนี้
๑. มาตรการภาษีเพื่อส่งเสริมการติดตั้ง Solar Rooftop ในบ้านอยู่อาศัย ให้บุคคลธรรมดาหักลดหย่อนค่าซื้ออุปกรณ์และค่าติดตั้งระบบการผลิตไฟฟ้าจากพลังงานแสงอาทิตย์แบบติดตั้งบนหลังคา ดาดฟ้า หรือส่วนหนึ่งส่วนใดบนอาคารที่อยู่อาศัย ซึ่งเชื่อมต่อกับระบบโครงข่ายไฟฟ้าของการไฟฟ้านครหลวงหรือการไฟฟ้าส่วนภูมิภาคตามจำนวนที่จ่ายจริง แต่รวมกันทั้งหมดแล้วไม่เกิน ๒๐๐,๐๐๐ บาท ที่ได้จ่ายให้แก่ผู้ประกอบการจดทะเบียนภาษีมูลค่าเพิ่ม และได้รับใบกำกับภาษีอิเล็กทรอนิกส์ (e-Tax Invoice) ตั้งแต่วันที่พระราชกฤษฎีกานี้มีผลใช้บังคับถึงวันที่ ๓๑ ธันวาคม ๒๕๗๑ ทั้งนี้ บุคคลธรรมดาจะใช้สิทธิยกเว้นภาษีเงินได้บุคคลธรรมดาสำหรับค่าซื้ออุปกรณ์และค่าติดตั้งระบบการผลิตไฟฟ้าจากพลังงานแสงอาทิตย์ได้ ๑ ครั้งและจำนวนไม่เกิน ๑ ระบบตลอดระยะเวลาของมาตรการ โดยให้ใช้สิทธิในปีภาษี ที่เชื่อมต่อกับระบบโครงข่ายไฟฟ้าสำเร็จ และต้องไม่นำค่าซื้ออุปกรณ์ดังกล่าวไปใช้สิทธิยกเว้นภาษีเงินได้บุคคลธรรมดาในมาตรการภาษีอื่นไม่ว่าทั้งหมดหรือบางส่วน
๒. มาตรการภาษีเพื่อส่งเสริมเครื่องจักร อุปกรณ์ประสิทธิภาพสูง และวัสดุเพื่อการอนุรักษ์พลังงาน ให้บุคคลธรรมดาซึ่งมีเงินได้พึงประเมินตามมาตรา ๔๐ (๕) (๖) (๗) และ (๘) แห่งประมวลรัษฎากรหักค่าใช้จ่ายในการลงทุนและบริษัทหรือห้างหุ้นส่วนนิติบุคคลหักรายจ่ายในการลงทุนได้ ๑.๕ เท่า โดยการยกเว้นภาษีเงินได้บุคคลธรรมดาและภาษีเงินได้นิติบุคคลเป็นจำนวนร้อยละ ๕๐ ของเงินได้เท่าที่ได้จ่ายเป็นค่าใช้จ่ายในการลงทุนในเครื่องจักร อุปกรณ์ประสิทธิภาพสูง หรือวัสดุเพื่อการอนุรักษ์พลังงานที่มีผลต่อการประหยัดพลังงาน ซึ่งได้รับการรับรองฉลากแสดงระดับประสิทธิภาพพลังงานระดับ ๕ ดาวจากกรมพัฒนาพลังงานทดแทนและอนุรักษ์ ที่ได้จ่ายให้แก่ผู้ประกอบการจดทะเบียนภาษีมูลค่าเพิ่ม และได้รับใบกำกับภาษีอิเล็กทรอนิกส์ (e-Tax Invoice) ตั้งแต่วันที่พระราชกฤษฎีกานี้มีผลใช้บังคับถึงวันที่ ๓๑ ธันวาคม ๒๕๗๑
ดร.กุลยา ตันติเตมิท อธิบดีกรมสรรพากร กล่าวว่า “มาตรการภาษี ๒ มาตรการนี้จะทำให้การลงทุนในประเทศเพิ่มขึ้นรวมกันไม่น้อยกว่า ๒๔๐,๒๕๐ ล้านบาท การใช้พลังงานไฟฟ้าของประเทศลดลงประมาณ ๒๕,๕๘๕ ล้านหน่วยต่อปี ซึ่งทำให้ต้นทุนการนำเข้า Spot LNG เพื่อผลิตไฟฟ้าลดลง ๘๘,๓๐๐ ล้านบาท และการปล่อยก๊าซเรือนกระจกลดลงประมาณ ๑๑.๒๘ ล้านตัน”
หากมีข้อสงสัย สอบถามรายละเอียดได้ที่สำนักงานสรรพากรทุกแห่งทั่วประเทศ หรือศูนย์สารนิเทศสรรพากร (RD Intelligence Center) โทร. ๑๑๖๑
