กรมพัฒน์ส่งชื่อนิติบุคคลใน จ.จันทบุรี ให้กรมที่ดินตรวจสอบการถือที่ดินเพื่อการเกษตร
กรมพัฒนาธุรกิจการค้าส่งรายชื่อนิติบุคคล ที่มีคนต่างชาติถือหุ้น ในจังหวัดจันทบุรี ให้กรมที่ดินตรวจสอบการถือครองที่ดินเพื่อการเกษตรแล้ว 462 ราย เผยอำเภอเมืองจันทบุรี พบ 11 รายถือครองที่ดิน มี 3 ราย ขายส่งผักผลไม้ 8 ราย ค้าอัญมณี ทำโรงแรม รีสอร์ต ขอให้ตรวจสอบต่อทุกอำเภอที่เหลือ ย้ำแม้สัดส่วนการถือหุ้นจะถูกต้องตามกฎหมาย แต่จะตรวจสอบเชิงลึกต่อไป เพื่อป้องกันนอมินี
นางอรมน ทรัพย์ทวีธรรม อธิบดีกรมพัฒนาธุรกิจการค้า เปิดเผยว่า กรมได้เดินหน้าตรวจสอบนิติบุคคลที่มีความเสี่ยงให้คนไทยถือหุ้นแทนคนต่างด้าว (นอมินี) โดยเน้นธุรกิจที่ดินเพื่อการเกษตร ในจังหวัดที่มีความเสี่ยงสูง อาทิ จันทบุรี ซึ่งการตรวจสอบจากฐานข้อมูลของกรม พบว่า มีนิติบุคคลที่มีคนต่างชาติถือหุ้น จำนวน 462 ราย โดยได้ส่งเรื่องให้กรมที่ดินตรวจสอบต่อแล้ว และในเบื้องต้น กรมที่ดินได้ตรวจสอบเฉพาะอำเภอเมืองก่อน พบว่า มี 11 ราย ที่ถือครองที่ดินในพื้นที่อำเภอเมืองจันทบุรี และมี 3 รายทำธุรกิจขายส่งผักและผลไม้ และส่วนที่เหลือ 8 ราย ทำธุรกิจอื่น เช่น ค้าขายอัญมณีและเครื่องประดับ โรงแรมและรีสอร์ต เป็นต้น ส่วนนิติบุคคลในอำเภออื่น ๆ ได้ขอให้กรมที่ดินตรวจต่อไป
“ขณะนี้ กรมที่ดินอยู่ระหว่างการตรวจสอบว่าถือครองที่ดินอย่างถูกต้องหรือไม่ ส่วนกรมได้ตรวจสอบสัดส่วนการถือหุ้นของคนไทยและคนต่างด้าวในนิติบุคคลเหล่านั้นว่าถูกต้องตามกฎหมายการประกอบธุรกิจของคนต่างด้าวกำหนดที่ไว้ว่าหากต่างด้าวถือหุ้นเกินครึ่ง จะถือว่าเป็นนิติบุคคลต่างด้าว
และไม่สามารถทำธุรกิจต้องห้าม เช่น ทำนา ทำสวน ทำไร่ ค้าที่ดินได้ ถ้าทำจะมีความผิด แต่ถ้าสัดส่วนการถือหุ้นไม่เกินที่กำหนด ก็จะถือว่า เป็นนิติบุคคลไทย และประกอบธุรกิจได้หมด แต่จะไม่หยุดแค่นี้ จะตรวจสอบเชิงลึกต่อไป เพื่อป้องกันนอมินี”นางอรมนกล่าว
ส่วนการรับเรื่องร้องเรียนผ่านช่องทางของศูนย์ปฏิบัติการรับเรื่องร้องเรียนความผิดเกี่ยวกับนอมินี ล่าสุดมีผู้ร้องเรียน 2 ราย พบนิติบุคคลเสี่ยง 3 ราย อยู่ในพื้นที่จังหวัดชลบุรี ซึ่งได้ลงพื้นที่ตรวจสอบแล้ว อยู่ระหว่างรอธุรกิจชี้แจงข้อเท็จจริงเกี่ยวกับการประกอบธุรกิจ
สำหรับ ผลการปราบปรามและดำเนินคดีกับผู้กระทำความผิดนอมินี ตั้งแต่ 1 ก.ย.2567-28 ก.พ.2568 มีจำนวน 851 ราย ส่วนใหญ่อยู่ในธุรกิจท่องเที่ยว อสังหาริมทรัพย์ ขนส่งทางบก และธุรกิจอื่นๆ มีมูลค่าความเสียหาย 1.51 หมื่นล้านบาท ซึ่งกรมอยากขอความร่วมมือประชาชน หากเห็นเบาะแสการเป็นนอมินี สามารถแจ้งได้ที่กรม จะได้เข้าไปตรวจสอบ และร่วมมือกับทุกหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ดำเนินการตรวจสอบเชิงลึก เพื่อเอาผิดตามกฎหมายต่อไป