INETREIT โชว์ฟอร์มผลงานปี 67 แข็งแกร่ง ดีมานด์ Data Center – Cloud หนุนโต กวาดรายได้ 617.92 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 54.32% เคาะจ่ายปันผล 0.2000 บาทต่อหน่วย
ทรัสต์เพื่อการลงทุนในอสังหาริมทรัพย์และสิทธิการเช่าอสังหาริมทรัพย์ไอเน็ต หรือ INETREIT ทรัสต์กองแรกและกองเดียวในประเทศไทยที่เข้าลงทุนตรงในทรัพย์สินเกี่ยวกับเมกะเทรนด์ด้านเทคโนโลยี Data Center ทั้งหมดพร้อมทั้งอุปกรณ์ที่ให้บริการ Cloud อย่างมีประสิทธิภาพ ประกาศผลการดำเนินงานปี 2567 ทำรายได้รวม 617.92 ล้านบาท ขณะที่กำไรจากการลงทุนสุทธิทำได้ 772.29 ล้านบาท เติบโต 54.32% และ 161.85% ตามลำดับ เมื่อเทียบกับปีก่อน เคาะจ่ายประโยชน์ตอบแทนในอัตรา 0.2000 บาทต่อหน่วย เตรียมขึ้นเครื่องหมาย XD วันที่ 26 กุมภาพันธ์ 2568 นี้ คิดเป็นอัตราผลตอบแทนต่อปีที่ 2.33%
นายสุตกานต์ แน่นหนา กรรมการผู้จัดการ บริษัท ไอเน็ต รีท แมเนจเม้นท์ จํากัด ในฐานะผู้จัดการกองทรัสต์ เปิดเผยถึงผลการดำเนินงานไตรมาส 4/2567 (ตุลาคม - ธันวาคม) กองทรัสต์ มีผลการดำเนินงานเติบโตแข็งแกร่ง มีรายได้รวม 190.22 ล้านบาท เติบโต 87.42% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน ขณะที่กำไรจากการลงทุนสุทธิทำได้ 496.43 ล้านบาท เติบโต 85.30% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อนหน้า โดยมีปัจจัยส่งเสริมการเติบโตจากรายได้ของสินทรัพย์จากการลงทุนโครงการ INET Data Center แห่งที่ 3 (INET-IDC3) ในเฟสที่ 2.1 เสร็จสิ้นในเดือนมีนาคม 2567 และดอกเบี้ยรับจากเงินฝากธนาคาร จากการนำสภาพคล่องที่มีไปหาผลตอบแทนที่มากขึ้น รวมทั้งต้นทุนทางการเงินที่ลดลง สอดคล้องกับคณะกรรมการนโยบายการเงินธนาคารแห่งประเทศไทย (กนง.) มีการปรับอัตราดอกเบี้ยลดลงในปี 2567 ส่งผลให้ผลการดำเนินงาน (มกราคม - ธันวาคม) ปี 2567 กองทรัสต์ มีรายได้รวม 617.92 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 54.32% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน และมีกำไรจากการลงทุนสุทธิ 772.29 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 161.85% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน อย่างไรก็ตาม เพื่อรองรับดีมานด์การใช้บริการศูนย์ข้อมูลที่ยังเติบโตต่อเนื่อง และรองรับการเติบโตในอนาคต กองทรัสต์ มีแผนจะเข้าลงทุนใน INET-IDC3 เฟส 2.2 ในส่วนของแผนการลงทุนในอนาคตกองทรัสต์จะมีการลงทุนตามแนวโน้มของการเติบโตของผู้เช่า (INET)
ทั้งนี้ ที่ประชุมคณะกรรมการบริษัทฯ เมื่อวันที่ 13 กุมภาพันธ์ 2568 มีมติอนุมัติจ่ายประโยชน์ตอบแทน (เงินปันผล) สำหรับผลการดำเนินงานปี 2567 ในอัตรา 0.2000 บาทต่อหน่วย กำหนดจ่ายประโยชน์ตอบแทนให้แก่ผู้ถือหน่วยทรัสต์ ในวันที่ 13 มีนาคม 2568 โดยจะขึ้นเครื่องหมาย XD วันที่ 26 กุมภาพันธ์ 2568 คิดเป็นอัตราผลตอบแทน 2.33% จากราคาหน่วยทรัสต์ที่ 8.60 บาท ณ สิ้นวันทำการปี 2567 (30 ธันวาคม 2567) หากรวมการจ่ายประโยชน์ตอบแทนในครั้งนี้ กองทรัสต์มีการจ่ายประโยชน์ตอบแทนไปแล้ว 14 ครั้ง รวมเป็นการจ่ายประโยชน์ตอบแทน ทั้งสิ้น 2.8109 บาทต่อหน่วย หรือคิดเป็นจำนวนเงินรวมประมาณ 1,066 ล้านบาท
กรรมการผู้จัดการ บริษัท ไอเน็ต รีท แมเนจเม้นท์ จํากัด กล่าวเพิ่มเติมว่า สำหรับปี 2568 ภาพรวมธุรกิจ Data Center ในประเทศไทยมีแนวโน้มการเติบโตอย่างโดดเด่น สอดคล้องกับการขยายตัวของโลกดิจิทัล และความต้องการใช้ข้อมูลที่เพิ่มขึ้น โดยรัฐบาลพยายามจะผลักดันให้ไทยกลายเป็นศูนย์กลางธุรกิจ Data Center พร้อมคาดหวังว่าธุรกิจนี้จะช่วยต่อยอดไปยัง ธุรกิจอื่นๆ และช่วยสร้างการเติบโตครั้งใหม่ (New S-Curve) ให้กับเศรษฐกิจไทย โดยประเทศหลักที่มีการลงทุน Data Center สูงในอาเซียนอย่างประเทศสิงคโปร์ เริ่มเผชิญข้อจำกัดในเรื่องพื้นที่และพลังงาน ส่งผลประเทศไทย ซึ่งมีความพร้อมด้านพื้นที่และพลังงานมากกว่า กำลังได้รับความสนใจอย่างมาก โดยปัจจุบันมีโครงการลงทุนในกิจการ Data Center และ Cloud Service ที่ยื่นขอการรับการส่งเสริมการลงทุนรวมกว่า 50 โครงการ ซึ่งในช่วง 5 ปีที่ผ่านมา ธุรกิจ Data Center มีรายได้เติบโตอย่างก้าวกระโดด และคาดการณ์ปี 2568 จะเติบโตเกือบ 17% จากปีที่ผ่านมา โดยได้รับแรงหนุนจากความต้องการใช้ข้อมูลที่สูงขึ้นและการขยายตัวของโลกดิจิทัล ปัจจัยสำคัญที่ผลักดันการเติบโต ได้แก่ ความต้องการทางเทคโนโลยี Cloud, AI, การเติบโตของธุรกิจดิจิทัล และความปลอดภัยทางด้าน Cybersecurity
ส่วนตลาด Public Cloud ในประเทศไทยมีแนวโน้มเติบโตอย่างรวดเร็วในช่วงที่ผ่านมา โดยมูลค่าตลาดมีการเติบโตประมาณ 29% จากมูลค่าของตลาด Data Center ทั้งหมดในประเทศ จากการเติบโตของนวัตกรรมด้านเทคโนโลยี และการใช้งานเทคโนโลยีมากขึ้น รวมถึงการใช้งานข้อมูลที่เติบโตขึ้น ซึ่งสะท้อนจากปริมาณการใช้งานข้อมูลรายเดือนต่อหมายเลขผ่านโทรศัพท์มือถือของไทยที่เพิ่มขึ้นต่อเนื่องในช่วงปี 2562-2567 จาก 10.35 GB ในไตรมาสที่ 1/2562 เป็น 33.70 GB ในไตรมาสที่ 1/2567 คิดเป็น 27% ของอัตราการเติบโตแบบทบต้นต่อปี โดยมีปัจจัยที่ส่งเสริมการเติบโตของตลาด Public Cloud ในประเทศไทย จากความต้องการการใช้งานเทคโนโลยีในภาคธุรกิจที่เพิ่มขึ้น, การเพิ่มขึ้นของปริมาณการใช้งานข้อมูลของผู้บริโภค, การลงทุนจากบริษัทเทคโนโลยีระดับโลก และนโยบายสนับสนุนจากภาครัฐ
“บริษัทฯ ในฐานะผู้จัดการกองทรัสต์ขอขอบคุณผู้ถือหน่วยทรัสต์ทุกท่านที่ให้ความไว้วางใจ และให้การสนับสนุนในการร่วมลงทุนในกองทรัสต์มาโดยตลอด บริษัทฯ มีความมุ่งมั่นตั้งใจที่จะทำหน้าที่ในการจัดการทรัพย์สินของกองทรัสต์ให้เกิดประโยชน์สูงสุด และสร้างผลตอบแทนที่ดีให้แก่ผู้ถือหน่วยทรัสต์ รวมทั้งมองหาโอกาสในการลงทุนเพิ่มเติมในทรัพย์สินใหม่ๆ ที่มีศักยภาพในการสร้างรายได้เพื่อประโยชน์ตอบแทนที่ดีที่สุดให้แก่ผู้ถือหน่วยทรัสต์ทุกท่าน และร่วมขับเคลื่อนเศรษฐกิจดิจิทัล เพื่อเพิ่มศักยภาพการเติบโตให้ประเทศอย่างต่อเนื่อง” นายสุตกานต์ กล่าว
2267