หมวดหมู่: มติ ครม.

Gov แพทองธาร12


ร่างพระราชกฤษฎีกาการได้รับเงินประจำตำแหน่งของข้าราชการตำรวจ พ.ศ. ....

          คณะรัฐมนตรีมีมติเห็นชอบร่างพระราชกฤษฎีกาการได้รับเงินประจำตำแหน่งของข้าราชการตำรวจ พ.ศ. .... ที่สำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกาตรวจพิจารณาแล้ว ตามที่สำนักงานตำรวจแห่งชาติเสนอและให้ดำเนินการต่อไปได้

          สาระสำคัญของเรื่อง

          1. สืบเนื่องมาจากมาตรา 98 แห่งพระราชบัญญัติตำรวจแห่งชาติ พ.ศ. 2565 บัญญัติให้อัตราเงินเดือนข้าราชการตำรวจ อัตราเงินประจำตำแหน่งและการรับเงินประจำตำแหน่งของข้าราชการตำรวจให้เป็นไปตามบัญชีท้ายพระราชบัญญัตินี้ ข้าราชการตำรวจตำแหน่งใดจะได้รับเงินประจำตำแหน่งท้ายพระราชบัญญัตินี้ในอัตราใด ให้เป็นไปตามกำหนดในพระราชกฤษฎีกา จึงต้องมีการตราพระราชกฤษฎีกาการได้รับเงินประจำตำแหน่งของข้าราชการตำรวจใหม่ เพื่อให้สอดคล้องและเป็นไปตามความในมาตรา 98 แห่ง พระราชบัญญัติตำรวจแห่งชาติ พ.ศ. 2565

          2.ร่างพระราชกฤษฎีกาการได้รับเงินประจำตำแหน่งของข้าราชการตำรวจ พ.ศ. .... ที่สำนักงานตำรวจแห่งชาติเสนอ มีสาระสำคัญเป็นการกำหนดประเภทตำแหน่งและการได้รับเงินประจำตำแหน่งของข้าราชการตำรวจ ให้ครอบคลุมกับกฎหมายที่ใช้บังคับในปัจจุบัน เพื่อให้เป็นมาตรฐานเดียวกันกับการได้รับเงินประจำตำแหน่งของข้าราชการประเภทอื่น และเพื่อให้เป็นไปตามความในมาตรา 98 แห่งพระราชบัญญัติตำรวจแห่งชาติ พ.ศ. 2565 สรุปสาระสำคัญ ดังนี้

              2.1 เพิ่มสายงานที่ปฏิบัติหน้าที่ในวิชาชีพเฉพาะให้ได้รับเงินประจำตำแหน่งประเภทวิชาชีพเฉพาะ (วช.) จำนวน 5 สายงาน จากเดิมที่มีอยู่แล้ว 28 สายงาน ได้แก่ (1) วิชาชีพเฉพาะกายอุปกรณ์ (2) วิชาชีพเฉพาะกิจกรรมบำบัด (3) วิชาชีพเฉพาะเทคโนโลยีหัวใจและทรวงอก (4) วิชาชีพเฉพาะแพทย์แผนไทย (5) วิชาชีพเฉพาะเวชศาสตร์การสื่อความหมาย ทั้งนี้ เพื่อเป็นการรองรับการปรับปรุงภารกิจที่จำเป็นต้องใช้บุคลากรที่มีความรู้ความสามารถในวิชาชีพเฉพาะดังกล่าวในอนาคตและเพื่อให้เป็นไปตามมาตรฐานเดียวกับ กฎ ก.พ. ว่าด้วยการให้ข้าราชการพลเรือนสามัญได้รับเงินประจำตำแหน่ง พ.ศ. 2551 และที่แก้ไขเพิ่มเติม และพระราชกฤษฎีกาการได้รับเงินประจำตำแหน่งของข้าราชการทหาร พ.ศ. 2553 และที่แก้ไขเพิ่มเติม

              2.2 เพิ่มลักษณะงานเชี่ยวชาญเฉพาะด้านให้ได้รับเงินประจำตำแหน่งประเภทผู้เชี่ยวชาญเฉพาะ (ชช.) จำนวน 2 ด้าน จากเดิมที่เคยมีอยู่ 46 ด้าน ได้แก่

                    2.2.1 ด้านการสืบสวนสอบสวน เพื่อให้สอดคล้องกับสายงานสืบสวนสอบสวนตามพระราชบัญญัติตำรวจแห่งชาติ พ.ศ. 2565 และเพื่อให้เป็นไปตามมาตรฐานเดียวกันกับกฎ ก.พ. ว่าด้วยการให้ข้าราชการพลเรือนสามัญได้รับเงินประจำตำแหน่ง พ.ศ. 2551 และที่แก้ไขเพิ่มเติม และพระราชกฤษฎีกาการได้รับเงินประจำตำแหน่งของข้าราชการทหาร พ.ศ. 2553 และที่แก้ไขเพิ่มเติม

                    2.2.2 ด้านความมั่นคงและกิจการพิเศษ เพื่อให้สอดคล้องกับการกำหนดลักษณะงานบริหารของ ตร. ซึ่งมีลักษณะการทำงาน ดังนี้

                             (1) งานด้านความมั่นคง ได้แก่ ความมั่นคงต่อองค์พระมหากษัตริย์ พระราชินี พระรัชทายาทฯ (สถาบันพระมหากษัตริย์) ความมั่นคงของรัฐภายในราชอาณาจักร ความมั่นคงของรัฐภายนอกราชอาณาจักร เช่น การถวายความปลอดภัยการปฏิบัติงานเกี่ยวกับความมั่นคงชายแดน การรักษาความสงบเรียบร้อยด้านการชุมนุมการเดินขบวน การต่อต้านการก่อการร้ายสากล การป้องกันปราบปรามอาชญากรรมข้ามชาติ

                             (2) งานด้านกิจการพิเศษ ได้แก่ งานโครงการในพระราชดำริ การอำนวยการจราจรและสัญจรของประชาชน การบรรเทาสาธารณภัย และการต่างประเทศตลอดจนความร่วมมือระหว่างประเทศและองค์กรระหว่างประเทศ เช่น การปฏิบัติหน้าที่งานตามโครงการพระราชดำริ การอำนวยการ ควบคุม กำกับดูแล และสั่งการเกี่ยวกับการจราจรทั่วประเทศ การพัฒนาเทคโนโลยีด้านการจราจร การปฏิบัติงานการต่างประเทศ และตำรวจสากล กิจการตำรวจที่เกี่ยวข้องกับประชาคมอาเซียน (ASEAN Community) และการให้บริการและอำนวยความสะดวกแก่นักท่องเที่ยวตามอำนาจหน้าที่

                    2.2.3 กำหนดให้ข้าราชการตำรวจซึ่งได้รับการแต่งตั้งให้ดำรงตำแหน่งประเภทบริหารของสถาบันการศึกษาของ ตร. ที่จัดการศึกษาระดับอุดมศึกษา ระดับปริญญา ที่กำหนดให้เป็นตำแหน่งประเภทวิชาการอีกประเภทหนึ่ง ให้ได้รับเงินประจำตำแหน่งประเภทบริหารโดยไม่ตัดสิทธิการได้รับเงินประจำตำแหน่งประเภทวิชาการตามตำแหน่งวิชาการที่ตนครองอยู่เพื่อให้สอดคล้องกับข้าราชการทหารและข้าราชการพลเรือนในสถาบันอุดมศึกษา ทั้งนี้ ในส่วนของสถาบันการศึกษาที่จัดการศึกษาระดับอุดมศึกษา ระดับปริญญาในสังกัด ตร. ได้แก่ โรงเรียนนายร้อยตำรวจและวิทยาลัยพยาบาลตำรวจ

                    2.2.4 กำหนดบทเฉพาะกาล ให้ข้าราชการตำรวจซึ่งดำรงตำแหน่งที่มีสิทธิได้รับเงินประจำตำแหน่งอยู่ก่อนวันที่พระราชกฤษฎีกานี้ใช้บังคับ ให้ยังคงได้รับเงินประจำตำแหน่งในอัตราของตำแหน่งนั้นต่อไปจนกว่าจะมีการเปลี่ยนแปลง

          3. ตร. ได้ดำเนินการตามมาตรา 27 แห่งพระราชบัญญัติวินัยการเงิน การคลังของรัฐ
พ.ศ. 2561 แล้ว และรายงานว่า การตราพระราชกฤษฎีกาฉบับนี้ไม่ก่อให้เกิดการสูญเสียรายได้ของรัฐหรือหน่วยงานของรัฐ

 

(โปรดตรวจสอบมติคณะรัฐมนตรีที่เป็นทางการจากสำนักเลขาธิการคณะรัฐมนตรีอีกครั้ง)

ที่ประชุมคณะรัฐมนตรี นางสาวแพทองธาร ชินวัตร (นายกรัฐมนตรี) 7 มกราคม 2568

 

 

1088

Click Donate Support Web 

MTI 720x100

Banner GPF720x100 PXTOA 720x100

EXIM One 720x90 C JMTL 720x100

SME720x100 2024

CKPower 720x100

QIC 720x100

วิริยะ 720x100

AXA 720 x100

aia 720 x100

BKI 720 x 100

kbank 720x100 66

ธกส 720x100PTG 720x100

ใจฟู720x100pxAXA 720 x100

ooKbee1

corehoon NEW2

 

 

ข่าวล่าสุด!!